เชื่อเลยว่าชีวิตประจำวันมีคนหลายคนที่จะใช้ QR Code เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการดำเนินการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเข้าถึงข้อมูลของสินค้าและบริการ การใช้ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ การตรวจเช็กสินค้าหรือพัสดุ และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ถือว่ามีความนิยมในการใช้ที่ครบด้านจริง ๆ ในบทความนี้ PACKTICA จะพาทุกคนไปทำความรู้จักว่า QR Code คืออะไร พร้อมมาแนะนำประเภทของ QR Code ว่ามีประเภทไหนบ้าง
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
ToggleQR Code คืออะไร?
QR Code คืออะไร? QR Code ย่อมาจาก Quick Response Code หมายถึง รหัสตอบสนองด่วน เป็นบาร์โค้ดสองมิติ (2D Barcode) รูปแบบหนึ่งที่พัฒนามาจากบาร์โค้ดแบบเส้น (1D Barcode) ที่เราคุ้นเคยกันดี ความพิเศษของ QR Code คือ สามารถเก็บข้อมูลได้ในปริมาณมาก อ่านข้อมูลได้รวดเร็ว โดยใช้เพียงกล้องสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตสแกนผ่านแอปพลิเคชันง่ายๆ
โดยลักษณะของ QR Code จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมสีขาวดำ ประกอบด้วยจุดเล็กๆ เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งแต่ละจุดนี้ล้วนมีความหมาย สามารถเก็บข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์ต่าง ๆ โดย 1 QR Code จะจุข้อมูลได้มากถึง 7,089 ตัวอักษร มากกว่าบาร์โค้ดเส้นถึง 200 เท่า
ปัจจุบัน QR Code ได้ถูกนำไปใช้งานอย่างกว้างขวางในแวดวงธุรกิจ เช่น การตลาด การโฆษณา การโอนเงิน รวมถึงอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน เช่น ใช้เช็กอินเข้าสถานที่ ชำระเงิน หรือเช็กข้อมูลโภชนาการของอาหาร ฯลฯ ซึ่งบ่งบอกถึงความอเนกประสงค์และประสิทธิภาพของ QR Code ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย
QR Code มีกี่แบบ
ใครหลายคนอาจจะไม่รู้ว่า QR Code นั้นมีหลายแบบ โดยแต่ละแบบจะสามารถระบุประเภทได้โดยการกำหนดจำนวนโมดูลที่มี เพื่อที่จะใส่ข้อมูลลงไปใน QR Code ที่ต้องการ หากมีข้อมูลน้อยก็เหมาะเลือกโมดูลที่มีขนาดเล็ก แต่ถ้าข้อมูลมีขนาดใหญ่ก็จำเป็นต้องใช้โมดูลขนาดใหญ่ แต่ถ้าอยากทำความเข้าใจแบบเจาะลึกสามารถตามอ่านได้ที่ด้านล่างนี้เลย
1. QR Code Model 1
สำหรับ QR Code Model 1 ถือว่าเป็นเวอร์ชั่นแรกที่มีการออกแบบมาให้ใช้ โดยโมดูลจะเป็นลักษณะ 73 x 73 โมดูล จัดเก็บข้อมูลที่เป็นตัวเลขได้มากสุดอยู่ที่ 1,167 ดิจิต ซึ่งเป็นขนาดพื้นฐาน
2. Micro QR Code
สำหรับ Micro QR Code เป็น QR Code ที่สร้างขึ้นมาให้มีขนาดเล็ก เพื่อที่จำใส่ข้อมูลในจำนวนที่น้อย และสามารถทำการดูข้อมูลได้เร็วกว่า โดยขนาดของโมดูลจะอยู่ที่ 11 โมดูล , 13 โมดูล , 15 โมดูล และ 17 โมดูล จัดเก็บข้อมูลที่เป็นตัวเลขได้มากสุดอยู่ที่ 35 ดิจิต
3. IQR Code
ในส่วนของ IQR Code นับว่าเป็น QR Code ที่ออกแบบโดยใช้เมตริกซ์ 2 มิติ โดยถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก แต่สามารถบรรจุข้อมูลได้มากกว่า QR Code Model 1 โดย IQR Code จะมี 2 ลักษณะคือสี่เหลี่ยมจัตุรัส และสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยมักนิยมใช้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ามากกว่าเพื่อใช้ในการติดบรรจุภัณฑ์หรือสินค้าที่มีขนาดเล็ก
4. SQRC
สำหรับ SQRC นับว่าเป็น QR Code ประเภทที่มีความพิเศษ เพราะสามารถจัดเก็บข้อมูลที่เป็นความลับได้โดยจะต้องใช้เครื่องพิเศษในการสแกน หรือถ้าหากใช้สมาร์ทโฟนในการสแกนจะเห็นข้อมูลบางส่วน หรือว่าง่ายๆ สามารถกำหนดข้อมูลในการเห็นที่แตกต่างกันได้นั่นเอง
5. Frame QR
สุดท้ายที่ถือว่ามีความน่าสนใจ นั่นก็คือ Frame QR ที่จะมีโมดูลอยู่รอบๆ บริเวณสี่เหลี่ยม แต่ภายในสี่เหลี่ยมจะมีการดีไซน์เป็นรูปภาพด้านใน โดยที่ข้อมูลในนั้นจะไม่มีการเสียหาย จากการใช้รูปภาพที่ได้เลือกมา ซึ่งเหมาะแก่การไปเสนอสินค้าหรือวิธีการใช้สินค้าเฉพาะตัวนั้นๆ ได้
ประโยชน์ของ QR Code ในชีวิตประจำวัน
QR Code นับว่าเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนต่างมีสมาร์ทโฟนที่สามารถสแกนผ่านกล้องถ่ายรูป หรือช่องทางอื่น ๆ ในโทรศัพท์ได้อีกมากมาย ถ้าหากให้สรุปประโยชน์ของ QR Code ในชีวิตประจำวันมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- แสดงข้อมูลสินค้าหรือบริการ เช่น ราคา คุณสมบัติ คู่มือการใช้ ผ่านการสแกน QR Code
- เป็นช่องทางการติดตามข่าวสารหรือโปรโมชันล่าสุดจากแบรนด์ ผ่านการสแกนบนโปสเตอร์หรือใบปลิว
- เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ เพจโซเชียลมีเดีย หรือดาวน์โหลดแอป ได้อย่างรวดเร็ว
- สร้างความบันเทิง เช่น ลิงก์ไปยังเพลง เกม หรือหนัง ผ่านการสแกนจากภาพยนตร์หรือโฆษณา
- อำนวยความสะดวกผ่านทางเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น จองโรงแรม สั่งอาหาร นัดหมายแพทย์ เพียงแค่สแกน QR ผ่านแอป
- ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมหรือรับสิทธิพิเศษ ผ่านการสแกนจากบัตรสมาชิกหรือตั๋วงานอีเวนต์
- แชร์ข้อมูลติดต่อ เช่น เบอร์โทร อีเมล ไอดีไลน์ เพียงสแกนผ่าน QR Code บนนามบัตร
- ยืนยันตัวตนหรือข้อมูลส่วนบุคคล ป้องกันการปลอมแปลง เช่น บัตรประชาชน บัตรนักศึกษา เป็นต้น
- ชำระเงินและโอนเงิน ด้วยวิธีสแกน QR Code ผ่านแอปธนาคารบนสมาร์ตโฟน
QR Code สามารถนำมาช่วยในด้านการส่งเสริมการขาย เช่น QR Code ของทาง PACKTICA ช่วยในการเก็บข้อมูลลูกค้า, ช่วยให้ลูกค้าเช็กสินค้าว่าเป็นของแท้หรือของปลอม, ช่วยส่งเสริมการขายด้วยการสแกน QR Code เพื่อชิงโชค และทาง PACKTICA ยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า
แจก 6 เว็บไซต์ Generate QR CODE
การสร้าง QR Code ในปัจจุบันทำได้ง่ายดายผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันมากมาย โดยส่วนใหญ่ไม่เสียค่าใช้จ่ายและใช้เวลาไม่กี่นาที ซึ่งแต่ละเว็บไซต์ก็มีฟีเจอร์ที่แตกต่างกันไป ทั้งด้านความสามารถ การออกแบบ และรูปแบบข้อมูลที่รองรับ วันนี้เราจึงรวบรวม 6 เว็บไซต์สร้าง QR Code ยอดนิยมมาแนะนำ พร้อมคำอธิบายให้เข้าใจง่าย มาดูกันเลย
1. QR Code Generator
เว็บไซต์นี้เหมาะสำหรับมือใหม่ เพราะใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน แถมยังสร้าง QR Code ได้ฟรีแบบไม่จำกัด รองรับข้อมูลที่หลากหลาย เช่น URL, ข้อความ, อีเมล, SMS, vCard, ไฟล์ PDF และอื่น ๆ อีกมาก โดยสามารถปรับสี ใส่โลโก้ เลือกรูปแบบการออกแบบได้ พร้อมดาวน์โหลดเป็นไฟล์ภาพความละเอียดสูง ที่สำคัญไม่ต้องสมัครสมาชิกก็ใช้ได้เลย
2. QR-Code Monkey
จุดเด่นของเว็บนี้คือเรื่องของการปรับแต่งดีไซน์ โดยให้อิสระในการใส่โลโก้ สี รูปร่าง และเอฟเฟกต์พิเศษต่าง ๆ ได้อย่างไม่จำกัด ช่วยสร้างลูกเล่นที่น่าสนใจให้กับ QR Code ได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเทมเพลตสำเร็จรูปให้เลือกปรับใช้ได้ทันที เหมาะกับงานที่เน้นความสวยงามและความแปลกใหม่เป็นพิเศษ แต่ถ้าต้องการฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น สร้าง Dynamic QR Code อาจต้องซื้อแพ็กเกจเสริม
3. The QR Code Generator
เน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก เพียงเลือกประเภทของ QR Code ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น URL, WiFi, Facebook, Bitcoin, หรืออื่น ๆ จากนั้นกรอกข้อมูลที่จำเป็น และกดสร้าง QR Code ได้เลย มีตัวเลือกการออกแบบพื้นฐาน เช่น สี ขนาด การเพิ่มโลโก้ ให้ใช้ฟรี ส่วนฟีเจอร์ขั้นสูงอย่าง QR Code แบบเคลื่อนไหวหรือมีการตรวจสอบผู้สแกน จะอยู่ในเวอร์ชันเสียเงิน แต่โดยรวมก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป และที่สำคัญคือสามารถดาวน์โหลด QR Code ได้เป็นไฟล์เวกเตอร์ เช่น SVG หรือ EPS ที่สามารถนำไปใช้งานต่อได้อย่างหลากหลาย
4. GoQR.me
อีกหนึ่งเว็บที่ให้บริการสร้าง QR Code ฟรี โดยมีจุดเด่นที่การอัปโหลดและแชร์ QR Code ที่สร้างเสร็จแล้วได้ กล่าวคือเมื่อสร้าง QR Code เสร็จ ระบบจะให้ลิงก์สำหรับแชร์ และยังสามารถดาวน์โหลดกลับมาใช้ซ้ำได้อีกในอนาคต ไม่ต้องกังวลว่าจะหาย นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการออกแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสี ขนาด รูปทรงของมาร์คเกอร์ การใส่โลโก้ ฯลฯ ซึ่งสามารถปรับแต่งได้แบบเรียลไทม์เห็นผลเปลี่ยนแปลงได้ทันที
5. QRstuff
เว็บสร้าง QR Code ที่นอกจากจะมีรูปแบบข้อมูลให้เลือกมากมายแล้ว ยังโดดเด่นเรื่องเครื่องมือตรวจสอบคุณภาพของ QR Code ที่สร้างขึ้นมา โดยสามารถนำไปทดสอบการสแกนบนอุปกรณ์จริง เพื่อให้มั่นใจว่าจะใช้งานได้จริง ไม่มีปัญหาเรื่องการอ่านข้อมูล พร้อมแนะนำวิธีการปรับปรุงแก้ไข ให้ QR Code มีคุณภาพที่ดีที่สุด เหมาะกับงานที่เผยแพร่วงกว้าง เช่น โฆษณา ใบปลิว หรือบรรจุภัณฑ์สินค้า เป็นต้น
6. Scanova QR Code Generator
ถือเป็นเว็บสำหรับการสร้าง QR Code ระดับมืออาชีพ ที่มีฟีเจอร์การใช้งานขั้นสูงมากมาย โดยเฉพาะการสร้าง Dynamic QR Codes ที่สามารถแก้ไขข้อมูลได้แม้ภายหลังสร้างไปแล้ว มีระบบสถิติการสแกนแบบละเอียด บอกได้ถึงสถานที่ อุปกรณ์ และช่วงเวลาที่มีคนสแกน รวมถึงมีฟีเจอร์เฉพาะทาง เช่น QR Code สำหรับล็อกอินเข้าสู่ WiFi, QR Code บน Smart Watch หรือฟีเจอร์ที่ช่วยป้องกัน QR Code ปลอมด้วย เหมาะสำหรับองค์กรและแบรนด์ใหญ่ ๆ ที่ต้องการความสามารถที่หลากหลายและปลอดภัยสูง
สรุปบทความ
ถ้าหากให้สรุปว่า QR Code คืออะไร ก็ต้องบอกว่าเป็นตัวสแกนรูปแบบหนึ่งที่นิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก โดยการใช้ก็สามารถนำกล้องสมาร์ทโฟนมาสแกนเพื่อเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้ ที่ใครหลายคนต่างก็คุ้นชินในการนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน แม้แต่ตัวธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะ SME ก็หันมาใช้ QR Code เพื่อส่งเสริมการตลาดให้ดีมากยิ่งขึ้นได้ และถ้าหากคุณต้องการหาผู้ช่วยในการสร้าง QR Code รูปแบบต่างๆ สำหรับธุรกิจ ขอแนะนำให้เข้ามาชมบริการของทาง Packtica กันได้