ฉลากติดตามสินค้า
บริการของเรา
Brands trust us
ฉลาก RFID มีประโยชน์อย่างไรกับธุรกิจ?
ประเภทของฉลาก RFID
ความพิเศษและตัวเลือกที่หลากหลาย
-
ใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง
-
มีตัวเลือกวัสดุที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์กับการใช้งาน
-
ทำได้ทั้งแบบเป็นฉลาก, ตั๋ว, หรือป้ายแท็ก
-
กาวสมรรถนะสูงติดแน่น ทนทาน
-
สามารถปรับแต่งรูปทรงและขนาดได้ตามความต้องการ
-
ส่งมอบสินค้าตรงเวลา
ให้คำปรึกษาฟรี
สอบถามผ่านอีเมล?
Types of RFID Labels
| ประเภทของ RFID | ความถี่ | ระยะการอ่านและความเร็วในการอ่าน | การถูกรบกวน | การใช้งาน |
|---|---|---|---|---|
| ฉลาก RFID ความถี่ต่ำ (Low Frequency - LF) |
30 - 300 KHz | มีระยะการอ่านประมาณ 10 เซนติเมตรและความเร็วในการอ่านช้า | มีความต้านทานต่อการรบกวนสูง | ใช้ในการควบคุมการเข้าถึงถึงการติดตามแต่กำลังถูกแทนที่ด้วยฉลาก HF |
| ฉลาก RFID ความถี่สูง (High Frequency - HF) |
3 - 30 KHz | มีระยะการอ่านตั้งแต่ 10 เซนติเมตรถึง 1 เมตรและความเร็วในการอ่านปานกลาง | มีความต้านทานต่อการรบกวนในระดับปานกลาง | ใช้สำหรับใบเสร็จรับเงิน, การระบุตัวตนส่วนบุคคล, การชำระเงินด้วยการ์ด, ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติหรือการโอนข้อมูล |
| ฉลาก RFID ความถี่สูงมาก (Ultra-High Frequency - UHF) |
300 MHz - 3 GHz | มีระยะการอ่านสูงสุดถึง 12 เมตรและความเร็วในการอ่านสูง | มีความไวต่อการรบกวนมาก | ใช้ในการประยุกต์ใช้ตั้งแต่การผลิตจนถึงผู้ใช้ปลายทาง ในแอปพลิเคชั่น เช่น การค้าปลีก, ยา, การผลิตและการขนส่ง |
คำถามที่พบบ่อย
ฉลาก RFID ทำมาจากอะไร?
ฉลาก RFID ประกอบด้วย 4 ส่วนคือ:
1. ไมโครชิป เพื่อเก็บข้อมูล
2. เสาอากาศ ทำให้ RFID สามารถสื่อสารกับเครื่องอ่านได้
3. อินเลย์ ส่งข้อมูลไปยังระบบคอมพิวเตอร์
4. พาหะ สำหรับถือส่วนประกอบ เช่น ฉลาก, ตั๋ว หรือป้ายแท็ก
วิธีการติดฉลาก RFID บนผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์?
ก่อนอื่น, คุณต้องวิเคราะห์พื้นผิวของผลิตภัณฑ์ที่คุณจะนำไปติด สำหรับกล่องกระดาษหรือพลาสติกคุณควรเลือกใช้ฉลาก RFID ที่พิมพ์ได้ ในกรณีนี้คุณสามารถเลือกวัสดุ (กระดาษ, ธอร์มอลหรือสังเคราะห์) และกาวตามการใช้งานได้เพื่อให้มั่นใจว่ากาวนั้นสามารถติดลงบนพื้นผิวได้เป็นอย่างดีในทางกลับกัน, หากพื้นผิวไม่สามารถติดฉลากที่พิมพ์ได้ คุณต้องการให้ไมโครชิปยืดหยุ่นคุณต้องใช้รูปแบบที่เฉพาะเจาะจงตามความต้องการของคุณ เช่น ตั๋ว
ความแตกต่างระหว่างฉลาก RFID แบบ Active และ Passive คืออะไร?
ฉลาก RFID แบบ **Active** ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ เมื่อฉลาก Active หมดพลังงานแบตเตอรี่แล้วจะไม่สามารถใช้งานได้อีก ระยะเวลาที่จะใช้ได้ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพแบตเตอรี่และเงื่อนไขการใช้งาน
ฉลาก RFID แบบ **Passive** ไม่มีแบตเตอรี่ภายใน แต่ดึงพลังงานจากเครื่องอ่าน RFID จึงสามารถมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก
วิธีเลือกฉลาก RFID แบบ Active หรือ Passive?
เมื่อต้องการติดตามสินค้ามูลค่าสูงในระยะทางไกล ฉลากแบบ Active เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด สำหรับการติดตามสินค้าจำนวนมาก ที่มีราคาต่ำในระยะทางที่สั้นกว่า ฉลาก RFID แบบ Passive เป็นโซลูชันที่เหมาะสม
วิธีการสั่งซื้อ
ขั้นตอนที่ 1: ติดต่อเราโดยคลิกปุ่มโทรหรือ LINE บนเว็บไซต์ของเรา
ขั้นตอนที่ 2: รับการปรึกษาฟรีและใบเสนอราคาจากผู้เชี่ยวชาญของเรา
ขั้นตอนที่ 3: ยืนยันใบเสนอราคาและตกลงเงื่อนไข
ขั้นตอนที่ 4: ชำระเงินค่ามัดจำ 50% พร้อมส่งข้อมูลที่ต้องการให้ออกแบบ
ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบการออกแบบ หลังจากยืนยันการออกแบบแล้วทางเราจะเริ่มกระบวนการผลิต
ขั้นตอนที่ 6: รอการผลิต 26-30 วันทำการ หลังจากสินค้าเสร็จแล้วให้ทำการชำระเงินที่เหลือก่อนส่งมอบสินค้า