ในปัจจุบัน การลอกเลียนแบบสินค้า หรือการทำสินค้าปลอมกำลังแพร่ระบาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่เกิดความกังวลใจเมื่อต้องเลือกซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ และหันมาให้ความสำคัญกับการเช็คและตรวจสอบสินค้าของแท้-ของปลอมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้สินค้าของแท้ที่คุณภาพดี ได้มาตรฐาน และไม่เกิดอันตรายในการใช้งาน ส่งผลให้แบรนด์ชั้นนำส่วนใหญ่เริ่มแนะนำวิธีการเช็คสินค้าแท้ปลอม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าซึ่งในบทความนี้ PACKTICA จะมาแนะนำแอปเช็คบาร์โค้ดของแท้ ที่จะช่วยให้คุณสามารถสแกนสินค้าของแท้ได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้เรายังจะมาแชร์วิธีตรวจสอบสินค้าของแท้ของปลอมด้วยตัวเอง ใครอยากรู้ว่าเรามีวิธีเช็คของแท้ของปลอมยังไง ต้องติดตามบทความนี้ให้จบ!
ความสำคัญของการตรวจสอบสินค้าของแท้ของปลอม
การเช็คสินค้าแท้ปลอมก่อนซื้อเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากซื้อสินค้าปลอมโดยไม่รู้ตัว นอกจากจะเสียเงินโดยใช่เหตุแล้ว ยังอาจได้รับอันตรายจากสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานอีกด้วย เช่น เครื่องสำอางปลอมที่มีสารเคมีอันตราย, อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ระเบิดได้ง่าย หรือชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ด้อยคุณภาพที่มีอายุการใช้งานสั้นกว่าที่ควร เป็นต้น
นอกจากนี้ การซื้อสินค้าของปลอมยังเป็นการสนับสนุนธุรกิจผิดกฎหมาย ละเมิดลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาอีกด้วย ซึ่งนอกจากจะส่งผลเสียต่อแบรนด์ของแท้แล้ว ยังบั่นทอนระบบเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้ผู้ประกอบการสินค้าของแท้ขาดรายได้ ในขณะที่ผู้ผลิตสินค้าก๊อปกลับได้กำไรโดยไม่เป็นธรรม
วิธีตรวจสอบสินค้า ของแท้ของปลอม
การเช็คสินค้าของแท้นั้นมีมากมายหลายวิธี ผู้ผลิตมักมีวิธีการเช็คสินค้าที่แตกต่างกันไปตามความสะดวก การที่ผู้ผลิตทำสินค้าออกมาให้สามารถตรวจเช็คว่าเป็นของแท้หรือของปลอมนั้น มีหลากหลายวิธีดังนี้
1. เช็คผ่าน QR Code สินค้า
การเช็คผ่าน QR Code สินค้าถือเป็นอีกวิธีที่ง่ายมาก PACKTICA มีระบบตรวจสอบสินค้าผ่าน QR Code ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะแต่ละชิ้น หรือระบบ Check Now โดยมีคิวอาร์โค้ดทำหน้าที่เป็นสื่อกลางที่เก็บข้อมูลเชิงลึก ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางแล้วสรุปไว้ในหน้าจอเดียว ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลว่าใครคือผู้ซื้อ ผู้ขาย และสถานที่ที่ถูกสแกน
นอกจากนี้ผู้บริโภคยังสามารถใช้สมาร์ทโฟนสแกนเพื่อตรวจสอบได้ว่าเป็นของแท้หรือไม่ โดยเมื่อสแกนแล้วจะเชื่อมต่อไปยังหน้าเว็บไซต์ที่แสดงข้อมูลของสินค้าชิ้นนั้น หากไม่มีข้อมูลหรือมีเว็บอื่นแสดงขึ้นมา แสดงว่ามีโอกาสที่จะเป็นของปลอม ทำให้ผู้ผลิตสามารถปกป้องแบรนด์จากการโดนปลอมแปลง ผู้บริโภคก็สามารถป้องกันตัวเองจากสินค้าที่มีการปลอมแปลงได้
2. ตรวจสอบเลข อย.
อีกวิธีที่หลายคนทราบ และนิยมทำตามวิธีนี้คือการตรวจสอบ อย.ผ่านระบบของกระทรวงสาธารณสุข โดยอาจค้นหาด้วยการระบุเลขสำคัญที่อยู่บนฉลาก บรรจุภัณฑ์ หรือชื่อแบรนด์ของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ลงในเว็บไซต์ของ อย. เพื่อดูว่าผลิตภัณฑ์นั้นได้ตรวจสอบการอนุญาตจาก อย.หรือไม่
หากไม่มีเลข อย. หรือมีแต่เช็คแล้วไม่ตรงกับฐานข้อมูล แสดงว่าสินค้าชิ้นนั้นอาจไม่ปลอดภัย และมีแนวโน้มเป็นของปลอมสูง ซึ่งสามารถสืบค้นได้ทั้งผลิตภัณฑ์อาหาร ยา สมุนไพร วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง ยาเสพติด และเครื่องมือแพทย์
3. ตัวแทนหรือผู้จัดจำหน่ายมีความน่าเชื่อถือ
การสั่งซื้อสินค้าจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือผู้ขายที่ได้การันตีจากแบรนด์ จะช่วยลดความเสี่ยงในการซื้อของปลอมได้มาก เพราะมีกระบวนการตรวจสอบที่เข้มงวดกว่าร้านค้าทั่วไป ยิ่งในปัจจุบันมีการแข่งขันทางการตลาดสูงมาก ทำให้ต้องเลือกพิจารณาเปรียบเทียบให้ดี เพราะอาจมีผู้แอบอ้าง หรือขายสินค้าที่มีการปลอมแปลงได้ นอกจากนี้เมื่อได้สินค้ามาแล้ว ยังควรให้ความสำคัญกับการเช็คจากตัวสินค้าอย่างรอบคอบอีกครั้ง ก็จะช่วยให้เกิดความมั่นใจที่จะใช้สินค้านั้นได้ และช่วยลดความกังวลในการซื้อครั้งต่อ ๆ ไปได้
4. ใช้แอปพลิเคชันเช็คของเเท้ของปลอม
ในปัจจุบันมีแอปเช็คบาร์โค้ดของแท้ให้เลือกใช้มากมายที่สามารถใช้งานได้ง่าย เพียงแค่สแกนบาร์โค้ดบนสินค้าด้วยสมาร์ทโฟน แอปก็จะตรวจสอบกับฐานข้อมูลสินค้าของแท้ และบอกผลการเช็คของแท้ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นแอปฯ Barcode Checker, OpenLabel, Authenteaka เป็นต้น ซึ่งใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว ช่วยให้เราสแกนสินค้าของแท้ที่สนใจได้ก่อนตัดสินใจซื้อ
ระบบตรวจสอบสินค้าของแท้ของปลอมส่งผลดีต่อธุรกิจยังไง?
นอกจากการเช็คบาร์โค้ดของแท้จะช่วยให้ผู้บริโภคหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าปลอมแล้ว ระบบตรวจสอบสินค้าแท้ปลอมยังมีประโยชน์ต่อธุรกิจและเจ้าของแบรนด์อีกด้วย ดังนี้
- ช่วยป้องกันการลอกเลียนแบบและการปลอมแปลงสินค้า ปกป้องแบรนด์และทรัพย์สินทางปัญญา
- สร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ เพราะมีระบบยืนยันของแท้ชัดเจน
- เพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า จากความมั่นใจว่าจะได้รับสินค้าของแท้จากแบรนด์
- ลดปัญหาการร้องเรียนหรือคืนสินค้า เนื่องจากได้ของปลอม
- ช่วยแบรนด์ติดตามและควบคุมคุณภาพสินค้าที่วางขายในท้องตลาด
- ยกระดับภาพลักษณ์ของธุรกิจ ว่ามีความโปร่งใส มุ่งเน้นการขายสินค้าของแท้เท่านั้น
- ช่วยรักษาข้อมูลของผลิตภัณฑ์นั้นเอาไว้ได้ เช่น หมายเลขเครื่องคอมพิวเตอร์ ข้อมูลเครื่องใช้ไฟฟ้า
- ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบรรจุภัณฑ์ได้ เช่น การใช้สติ๊กเกอร์โฮโลแกรม
ดังนั้นแบรนด์สินค้าต่าง ๆ จึงควรให้ความสำคัญกับการนำระบบเช็คสินค้าของแท้มาใช้ในธุรกิจ ไม่เพียงแต่เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค แต่ยังช่วยปกป้องแบรนด์จากการถูกละเมิด สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และการเติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย
สรุปบทความ
การที่ผู้ผลิตมีระบบการตรวจสอบสินค้า ของแท้ นั้นถือเป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวผู้ผลิตเอง เช่น ป้องกันการทำสินค้าปลอมแปลง การแอบอ้าง สามารถตรวจสอบกระบวนการตั้งแต่โรงงานผลิต ไปถึงผู้ที่เป็นตัวแทน จนถึงมือลูกค้าได้ นอกจากนี้การมีระบบเช็คบาร์โค้ดของแท้-ของปลอม ยังเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคเอง เพราะสามารถตรวจสอบได้ว่าผลิตภัณฑ์เป็นของแท้หรือไม่ เพิ่มความปลอดภัยในการใช้ผลิตภัณฑ์มากขึ้น
