ปัจจุบันการแข่งขันในด้านธุรกิจสินค้าต่าง ๆ นั้นมีการแข่งขันสูงมาก ทำให้หลายธุรกิจต้องมีกลยุทธ์ เทคนิคที่สามารถช่วยดึงดูดลูกค้าเอาไว้ได้ แพคเกจจิ้ง หรือบรรจุภัณฑ์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เข้ามามีบทบาทในการแข่งขัน และยังมีความสำคัญกับแบรนด์ ธุรกิจ และกลุ่มลูกค้าด้วยเช่นกัน
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
Toggleความสำคัญของการออกแบบผลิตภัณฑ์สินค้า (Packaging Design)
Packaging หรือบรรจุภัณฑ์ เป็นสิ่งที่ใช้ห่อหุ้ม รองรับ ป้องกัน รักษาผลิตภัณฑ์ให้คงสภาพเอาไว้ได้ และเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ปลอดภัยจากการขนส่ง ก่อนจะถึงมือผู้บริโภค บรรจุภัณฑ์ยังเป็นสิ่งที่ช่วยดึงดูด เพิ่มความน่าสนใจ และเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และกระตุ้นการซื้อได้อย่างดี และยังช่วยสร้างจุดเด่นให้กับแบรนด์สินค้าให้มีความโดดเด่นต่างจากคู่แข่งในตลาดได้
ผลิตภัณฑ์สินค้าที่ดีควรออกแบบอย่างไร?
แพคเกจนั้นถือเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคจะเห็นก่อนเป็นส่วนแรก เป็นส่วนที่ดึงดูดความสนใจได้อย่างดี และส่งผลต่อยอดขายด้วยเช่นกัน แต่การออกแบบเพคเกจจิ้งที่ดีนั้น ไม่ได้เน้นด้านความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีองค์ประกอบด้านอื่น ๆ ด้วย ที่ทำให้ออกมาเป็นแพคเกจ หรือบรรจุภัณฑ์ที่ดี
1. ดีไซน์ดึงดูด น่าสนใจ
ต้องทำให้สินค้าโดดเด่นสะดุดตาจากแบรนด์อื่น ๆ ที่วางอยู่ในชั้นเดียวกันให้ได้ อาจดูสินค้าคู่แข่งอื่น ๆ ว่าเขาทำบรรจุภัณฑ์อย่างไร แล้วจึงเลือกดีไซน์โทนสีที่แตกต่างกันออกไป อาจเลือกวัสดุกระดาษหรือการใช้เทคนิคพิเศษอื่น ๆ ร่วมด้วย อาจดูว่าโรงงานบรรจุภัณฑ์มีฟังก์ชันอะไรน่าสนใจบ้าง เช่น การเคลือบเงาที่กล่อง การเคลือบด้าน การปั๊มนูน การเคลือบวัสดุให้มีความแวววาวมีกลิตเตอร์ เป็นต้น และต้องเลือกให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์และแบรนด์ของคุณด้วย การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีความแตกต่างและไม่เหมือนใครยังช่วยสร้างการจดจำได้ดีขึ้นได้เช่นกัน
2. แพคเกจจิ้งต้องง่ายต่อการใช้งาน
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือการออกแบบแพคเกจต้องง่ายต่อการใช้งานสินค้า สะดวก ไม่ยุ่งยาก หรือการเพิ่มฟังก์ชันให้กล่องแพคเกจจิ้งสามารถนำไปใช้งานอื่น ๆ ได้ ซึ่งอาจคุยและปรึกษากับโรงงานรับผลิตแพคเกจจิ้ง อย่างการเลือกใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น เมื่อใช้สินค้าหมดแล้วก็ทำให้ไม่ต้องทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ได้ และการออกแบบยังต้องคำนึงถึงการป้องกันความเสียหาย และรักษาสินค้าระหว่างขนส่งได้ด้วย
3. มีข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วน
เมื่อแพคเกจสามารถดึงดูดความสนใจได้แล้ว ขั้นต่อมาคือเมื่อลูกค้าเข้ามาหยิบกล่องแพคเกจขึ้นมาดูข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งควรมีการระบุข้อมูลสำคัญเอาไว้ให้ครบถ้วน เช่น ผลิตภัณฑ์นี้คืออะไร ช่วยในเรื่องอะไร ใช้อย่างไร จุดเด่น สรรพคุณต่าง ๆ รวมถึงเครื่องหมายการค้า การการันตีคุณภาพ ราคา แต่ควรเลือกข้อมูลที่จำเป็นเท่านั้น เพราะการใส่ข้อความที่เป็นตัวหนังสือมากเกินไป อาจทำให้แพคเกจดูรกตา และไม่สวยงามได้ ซึ่งโรงพิมพ์บรรจุภัณฑ์อาจช่วยแนะนำในส่วนนี้ได้ เพื่อให้การใส่ข้อมูลเป็นไปอย่างครบถ้วน สวยงาม ไม่รกตา
4. รองรับการทำธุรกิจยุคใหม่
ปัจจุบันมีการใช้แพคเกจจิ้งเพื่อช่วยสื่อสาร และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าได้ง่ายขึ้น อย่างการทำ Smart Packaging จาก Packtica ที่ช่วยยกระดับ Packaging ให้เหมาะกับการทำธุรกิจยุคใหม่ได้ เช่น การออกแบบบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ ที่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลทุกอย่างเข้าด้วยกันจากการสแกน QR Code บนบรรจุภัณฑ์ อย่างข้อมูลของผลิตภัณฑ์ การเก็บข้อมูลสินค้าตั้งแต่ส่งออกจนถึงมือลูกค้า หรือการสร้างแคมเปญทางการตลาดผ่าน QR Code เพื่อให้ลูกค้าใช้สแกนและเข้าร่วม หรือรับข้อมูลข่าวสารอื่น ๆ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิตอลได้อย่างดี
7 ไอเดียการออกแบบผลิตภัณฑ์สินค้าให้ดึงดูดและน่าสนใจ
สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นออกแบบผลิตภัณฑ์สินค้ายังไงดี? PACKTICA รวมไอเดีย Packaging Design ที่น่าสนใจมาแนะนำให้แล้ว ใครอยากรู้ว่ามีไอเดียอะไรบ้าง ไปดูกัน
แพคเกจจิ้งแบบเล่าเรื่อง (Storytelling Packaging)
ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เล่าเรื่องราวของผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ผ่านภาพประกอบหรือข้อความที่ต่อเนื่องกัน เช่น การใช้ภาพการ์ตูนที่แสดงขั้นตอนการผลิตหรือประวัติความเป็นมาของสินค้า ทำให้ผู้บริโภครู้สึกผูกพันกับผลิตภัณฑ์มากขึ้น
บรรจุภัณฑ์แบบโปร่งใส (Transparent Packaging)
ใช้วัสดุโปร่งใสหรือมีช่องให้เห็นผลิตภัณฑ์ภายใน เพื่อสร้างความไว้วางใจและให้ผู้บริโภคเห็นคุณภาพของสินค้าได้ทันที เหมาะกับสินค้าที่มีความสวยงามหรือต้องการแสดงเนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์
แพคเกจจิ้งแบบสร้างสรรค์รูปทรง (Unique Shape Packaging)
ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีรูปทรงที่แปลกตาและเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ เช่น ขวดน้ำหอมรูปดอกไม้ หรือกล่องขนมรูปตัวการ์ตูน สร้างความโดดเด่นบนชั้นวางสินค้าและกระตุ้นความอยากซื้อ
บรรจุภัณฑ์แบบชุด (Bundle Packaging)
ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่รวมสินค้าหลายชิ้นเข้าด้วยกันในรูปแบบที่น่าสนใจ เช่น ชุดของขวัญที่มีการจัดวางสินค้าอย่างสวยงาม หรือชุดผลิตภัณฑ์ที่สามารถแยกใช้เป็นส่วนๆ ได้
แพคเกจจิ้งแบบมีกลิ่นหอม (Scented Packaging)
เพิ่มกลิ่นหอมลงในบรรจุภัณฑ์เพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสของผู้บริโภค เช่น กล่องช็อกโกแลตที่มีกลิ่นโกโก้ หรือถุงกาแฟที่มีกลิ่นของเมล็ดกาแฟคั่ว สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินค้า
บรรจุภัณฑ์แบบปรับเปลี่ยนได้ (Transformable Packaging)
ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างหรือหน้าที่การใช้งานได้ เช่น กล่องพิซซ่าที่พับเป็นจานได้ หรือถุงช็อปปิ้งที่พับเก็บเป็นพวงกุญแจได้ สร้างความประทับใจและเพิ่มคุณค่าให้กับบรรจุภัณฑ์
แพคเกจจิ้งแบบเทคโนโลยีล้ำสมัย (High-tech Packaging)
ใช้เทคโนโลยีล่าสุดในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ เช่น การใช้ E-ink ที่สามารถเปลี่ยนข้อความหรือภาพบนบรรจุภัณฑ์ได้ หรือการใช้ LED ที่กะพริบเมื่อมีคนเข้าใกล้ สร้างความแปลกใหม่และดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี
สรุปบทความ
แพคเกจจิ้ง ถือเป็นส่วนที่หลายธุรกิจต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะถือเป็นส่วนที่ช่วยสร้างยอดขายให้กับธุรกิจได้เช่นกัน ซึ่งมีหลายปัจจัยในการออกแบบให้เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ดี ทั้งด้านความสวยงามโดดเด่นน่าสนใจ สะดวกต่อการใช้งาน มีการระบุข้อมูลครบถ้วน และยังสามารถช่วยยกระดับบรรจุภัณฑ์แบบเดิม ๆ เป็น Smart Packaging ที่ช่วยเชื่อมต่อระหว่างแบรนด์และลูกค้าได้ง่ายขึ้น มีความน่าสนใจมากขึ้น เพื่อที่จะอยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้ สร้างความโดดเด่นและการจดจำให้แบรนด์ได้อย่างดี