คุณผู้หญิงและคุณผู้ชายหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า เครื่องสำอางเองก็มีวันหมดอายุเช่นเดียวกันไม่ต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ หลายคนจึงอาจไม่ได้สนใจหรือให้ความสำคัญเกี่ยวกับการดูวันผลิตหรือวันหมดอายุกันเท่าไหร่ แต่แน่นอนว่า เครื่องสำอางหมดอายุ เป็นสิ่งที่ไม่ควรนำเอามาใช้ ถึงแม้บางคนอาจจะเถียงในใจว่าเครื่องสำอางที่ใช้อยู่นั้นมีการใช้มาหลายปีแล้ว แต่ไม่เห็นว่าจะเป็นอันตรายตรงไหน บทความนี้จะพาไปไขคำตอบว่า เครื่องสำอางหมดอายุใช้ต่อได้ไหม พร้อมทำความรู้จักกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้เครื่องสำอางที่หมดอายุ
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
Toggleเครื่องสำอางหมดอายุใช้ต่อได้ไหม?
เครื่องสำอางหมดอายุใช้ต่อได้ไหม? ลิปสติกหมดอายุใช้ได้ไหม? คำตอบคือ เครื่องสำอางที่หมดอายุไม่ควรนำเอามาใช้ต่อ เนื่องจากอาจสร้างผลกระทบต่อสุขภาพผิวของผู้ใช้งานได้ โดยการใช้เครื่องสำอางที่หมดอายุอาจส่งผลกระทบต่อผิว ดังนี้
มีอาการระคายเคือง
เนื่องจากเครื่องสำอางที่หมดอายุจะมีแบคทีเรียที่เจริญเติบโต จากการที่โมเลกุลในเครื่องสำอางนั้นมีการเปลี่ยนไป หากนำเอาเครื่องสำอางที่หมดอายุเหล่านี้ไปใช้อาจส่งผลให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง อาจมีผื่นแดง ผื่นแพ้ และอาจมีอาการคันร่วมด้วยได้ ในบางรายอาจทำให้เกิดสิวขึ้นจากการใช้เครื่องสำอางที่หมดอายุ
เกิดการติดเชื้อ
เครื่องสำอางหมดอายุ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมาสคาร่า (Mascara) หากหมดอายุแล้ว เป็นสิ่งที่ไม่ควรนำเอามาใช้งานต่อโดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจทำให้แบคทีเรียที่เจริญเติบโตเข้าสู่ดวงตาและทำให้ตาเกิดการอักเสบติดเชื้อตามมาได้ จึงควรระวังการใช้เครื่องสำอางบริเวณดวงตาอย่างมาก
มีแบคทีเรียบนผิวหนัง
ในเครื่องสำอางส่วนใหญ่แทบจะทุกชนิด ในกระบวนการผลิตจะมีการใส่ส่วนผสมของสารกันเสียเพื่อที่จะยืดอายุการใช้งาน รวมถึงเพื่อรักษาคุณภาพของเครื่องสำอาง เนื่องจากในการเปิดใช้เครื่องสำอางแต่ละครั้งผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีการสัมผัสกับแบคทีเรียในอากาศ แต่หากเป็นเครื่องสำอางที่หมดอายุแล้ว แบคทีเรียในอากาศจะสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เมื่อนำเอาเครื่องสำอางไปใช้แบคทีเรียจะส่งผลให้เกิดปัญหาผิวหน้าอย่างรุนแรงได้
สิวอักเสบและสิวอุดตัน
หากใช้เครื่องสำอางหมดอายุอาจส่งผลให้เกิดสิวอักเสบและสิวอุดตันได้ง่าย เนื่องจากเครื่องสำอางหมดอายุที่มีแบคทีเรียเจริญเติบโตได้เข้าไปอุดตันที่บริเวณรูขุมขน และเมื่อเกิดสิวอักเสบและสิวอุดตันขึ้นอาจทิ้งร่องรอยของสิว หรือทำให้เกิดรอยหลุมสิวตามมาได้เช่นเดียวกัน
เครื่องสำอางหมดอายุดูยังไง
ในการตรวจดูวันหมดอายุหรือ เช็ควันหมดอายุเครื่องสำอาง นั้น สามารถที่จะดูได้จากฉลากของผลิตภัณฑ์ที่มีการติดเอาไว้ที่บรรจุภัณฑ์ จากการมองหาคำว่า MFG/MFD ที่หมายถึงวันผลิตเครื่องสำอาง และการมองหาคำว่า EXP/EXD ที่หมายถึงวันหมดอายุ หรืออาจมองหาสัญลักษณ์ที่เป็นรูปบรรจุภัณฑ์เปิดขวด (Period After Opening ; PAO) โดยสังเกตเลขที่กำกับเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่น หากสัญลักษณ์นั้นมีเลขกำกับเอาไว้ที่ 12M หมายความว่า ผลิตภัณฑ์นั้นจะหมดอายุหลังจากการเปิดใช้งานแล้ว 12 เดือน เป็นต้น
อายุการใช้งานของเครื่องสำอางแต่ละประเภท
เพื่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของเครื่องสำอาง ควรเก็บให้พ้นจากแสงแดดหรือเก็บเอาไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิไม่เกิน 35 องศา โดยส่วนใหญ่แล้วเครื่องสำอางที่ยังไม่มีการเปิดใช้งานนั้นจะสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 3 ปี แต่หากมีการเก็บเอาไว้นานควรทำการตรวจสอบวันหมดอายุก่อนใช้ แต่หากมีการเปิดใช้งานแล้วเครื่องสำอางแต่ละประเภทอาจมีวันหมดอายุที่แตกต่างกันออกไป
- แป้งพัฟหรือแป้งผสมรองพื้น : มีอายุการใช้งาน 24 เดือน
- รองพื้น : มีอายุการใช้งาน 12-18 เดือน
- คอนซีลเลอร์ : มีอายุการใช้งาน 6-12 เดือน
- บลัชออนหรือที่ปัดแก้ม : มีอายุการใช้งาน 12 เดือน
- คอนทัวร์ : มีอายุการใช้งาน 6-12 เดือน
- แป้งฝุ่น : มีอายุการใช้งาน 12 เดือน
- คุชชั่น : มีอายุการใช้งาน 6 เดือน
- อายแชโดว์ : มีอายุการใช้งาน 12-24 เดือน
- ลิปสติก : มีอายุการใช้งาน 12-24 เดือน
- มาสคาร่า : มีอายุการใช้งาน 3-6 เดือน
- อายไลเนอร์ : มีอายุการใช้งาน 6 เดือน
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นตามบริเวณต่าง ๆ ที่มีการใช้เครื่องสำอาง
การใช้เครื่องสำอางที่หมดอายุอาจส่งผลเสียต่อผิวหนังและสุขภาพของคุณได้ เนื่องจากส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาจเสื่อมสภาพหรือมีการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจนำไปสู่การระคายเคืองหรือการติดเชื้อได้ ต่อไปนี้คือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้เครื่องสำอางประเภทต่าง ๆ ที่หมดอายุ:
– แป้งฝุ่น แป้งพัฟ แป้งผสมรองพื้น บลัชออนหรือที่ปัดแก้ม
การใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เมื่อหมดอายุอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหน้าอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดสิว ผดผื่น หรือการอุดตันของรูขุมขน เนื่องจากส่วนผสมที่เสื่อมสภาพอาจทำปฏิกิริยากับผิวหนัง ทำให้เกิดการอักเสบหรือการแพ้ที่แสดงออกมาในรูปแบบของอาการแดง คัน หรือบวม บริเวณที่ใช้ผลิตภัณฑ์
– รองพื้น คอนซีลเลอร์ คุชชั่น คอนทัวร์
ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มักมีส่วนผสมที่เข้มข้นและสัมผัสกับผิวหน้าโดยตรงเป็นเวลานาน การใช้เมื่อหมดอายุจึงมีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหน้าอย่างรุนแรง อาจนำไปสู่การอักเสบของผิวหนัง เพิ่มโอกาสการเกิดสิวอักเสบหรือสิวอุดตัน นอกจากนี้ยังอาจทำให้ผิวแห้ง ลอก หรือเกิดรอยแดง ในกรณีที่รุนแรง อาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังได้ โดยเฉพาะหากมีการใช้ร่วมกับอุปกรณ์แต่งหน้าที่ไม่สะอาด
– บลัชออนหรือที่ปัดแก้ม อายแชโดว์
การใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เมื่อหมดอายุอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริเวณรอบดวงตาและแก้มซึ่งมีผิวบางและบอบบาง อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองรุนแรง เสี่ยงต่อการเกิดการอักเสบของเยื่อบุตา ซึ่งอาจนำไปสู่อาการตาแดง คัน หรือมีน้ำตาไหล นอกจากนี้ยังอาจเกิดอาการแพ้ บวม แดง คันบริเวณที่ใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของสารก่อภูมิแพ้หรือสารระคายเคือง
– ลิปสติก
ลิปสติกที่หมดอายุอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อริมฝีปาก ทำให้เกิดอาการแห้ง แตก หรือลอก นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดการระคายเคืองรอบ ๆ ริมฝีปาก เกิดผื่นแดง หรืออาการคัน ในกรณีที่รุนแรง อาจนำไปสู่การติดเชื้อที่ริมฝีปากได้ เนื่องจากลิปสติกสัมผัสกับปากโดยตรง จึงมีความเสี่ยงที่สารเคมีที่เสื่อมสภาพหรือเชื้อแบคทีเรียจะเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมได้
– มาสคาร่า อายไลเนอร์
ผลิตภัณฑ์สำหรับดวงตาที่หมดอายุมีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้เกิดการติดเชื้อที่ตา เนื่องจากบริเวณรอบดวงตามีความบอบบางและอ่อนไหว การใช้มาสคาร่าหรืออายไลเนอร์ที่หมดอายุอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองตา ตาแดง คัน หรือมีอาการบวมของเปลือกตา นอกจากนี้ยังอาจนำไปสู่การอักเสบของเยื่อบุตาหรือกระจกตา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นได้ ในกรณีที่รุนแรง อาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ตาซึ่งต้องได้รับการรักษาจากแพทย์โดยเร็ว
เครื่องสำอางหมดอายุสามารถนำไปทำอะไรได้บ้าง?
เครื่องสำอางที่หมดอายุอาจไม่เหมาะสำหรับการใช้งานบนผิวหนังอีกต่อไป แต่ก็ยังมีวิธีจัดการที่สร้างสรรค์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดังนี้
1. นำไปบริจาคให้โรงพยาบาล หรือมูลนิธิต่างๆ
แม้ว่าเครื่องสำอางจะหมดอายุสำหรับการใช้บนผิว แต่หลายมูลนิธิ หรือโรงพยาบาลก็ยินดีรับบริจาคเพื่อนำไปใช้ในการแต่งหน้าให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยสามารถเช็คข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของโรงพยาบาลหรือมูลนิธิที่ต้องการบริจาคได้ด้วยตัวเอง
2.สร้างสรรค์งานศิลปะ
คุณสามารถใช้เครื่องสำอางเหล่านี้ในการสร้างสรรค์งานศิลปะของตัวเอง เช่น ใช้ลิปสติกหรืออายแชโดว์ในการวาดภาพ หรือใช้แป้งทำเทกซ์เจอร์ในงานคราฟท์ แต่ควรสวมถุงมือทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้สารเคมีที่เป็นอันตรายสร้างความระคายเคืองให้ผิวหนัง
3.ทิ้ง
หากไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่นได้ ควรทิ้งอย่างถูกวิธี โดยแยกบรรจุภัณฑ์พลาสติกหรือแก้วออกเพื่อรีไซเคิล และทิ้งตัวผลิตภัณฑ์ในถังขยะทั่วไป อย่าทิ้งลงท่อน้ำเพื่อป้องกันการปนเปื้อนในแหล่งน้ำ การจัดการเครื่องสำอางหมดอายุอย่างเหมาะสมไม่เพียงช่วยลดขยะ แต่ยังเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
สรุปบทความ
เมื่อได้ไขคำตอบกันไปแล้วว่า ลิปสติกหมดอายุ เครื่องสำอางหมดอายุใช้ต่อได้ไหม? ก็อย่าลืมไปเช็กเครื่องสำอางที่ใช้อยู่และให้ความสำคัญกับการเลือกใช้เครื่องสำอางที่ปลอดภัย โดยควรจะเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีฉลากบ่งบอกถึงวันผลิตและวันหมดอายุอย่างชัดเจน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการใช้เครื่องสำอางหมดอายุ นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ของเครื่องสำอางให้ละเอียด ว่ามีวันเดือนปีที่ผลิต และหมดอายุชัดเจนหรือไม่สุดท้ายนี้หากคุณเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางที่ต้องผลิตฉลากสินค้า, กล่องหรือบรรจุภัณฑ์ ก็สามารถใช้บริการผลิตและออกแบบบรรจุภัณฑ์ กับ PACKTICA ได้ เพื่อให้ได้บรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ข้อมูลครบถ้วน มีข้อมูลรายละเอียดเครื่องสำอาง รวมถึงวันผลิตและวันหมดอายุ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคโดยเฉพาะ